TREES คืออะไร?

TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) คือ ระบบการประเมินมาตรฐานอาคารเขียวของประเทศไทย พัฒนาโดย สถาบันอาคารเขียวไทย (TGBI) เพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารจัดการอาคารอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย

วัตถุประสงค์หลักของ TREES:

  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการใช้ทรัพยากรในภาคอสังหาริมทรัพย์
  • ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานหมุนเวียน
  • ยกระดับคุณภาพชีวิตในอาคาร เช่น แสงธรรมชาติ อากาศหมุนเวียน และคุณภาพอากาศภายใน

เป็นแนวทางและมาตรฐานกลาง สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืนในประเทศไทย

หมวดหมู่การประเมินของ TREES (9 ด้านหลัก):

  1. การบริหารจัดการอาคาร (Building Management)
  2. การใช้ที่ดินและการขนส่ง (Site and Landscape)
  3. พลังงานและบรรยากาศ (Energy and Atmosphere)
  4. วัสดุและทรัพยากร (Materials and Resources)
  5. การใช้น้ำ (Water Conservation)
  6. คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor Environmental Quality)
  7. สิ่งแวดล้อมภายนอก (Environmental Protection)
  8. การบริหารจัดการขยะ (Waste Management)
  9. การรับรู้และการศึกษา (Awareness and Education)

เหมาะกับใคร:

  • อาคารสำนักงาน โรงงาน โรงพยาบาล สถานศึกษา ฯลฯ
  • นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ออกแบบระบบที่ต้องการมุ่งสู่ความยั่งยืน
  • องค์กรที่ต้องการยกระดับภาพลักษณ์ด้าน ESG และ CSR

ใช้ “Ozone for Condenser” อย่างไรให้ได้คะแนน TREES                                                                           

การใช้เทคโนโลยีโอโซนในระบบน้ำเย็น เป็นทางเลือกที่ “ประหยัด + ยั่งยืน + ได้คะแนน” เพราะครอบคลุมทั้ง น้ำ, พลังงาน, และ ความคงทนของระบบ ได้ในคราวเดียว ซึ่งตอบโจทย์เกณฑ์ TREES อย่างชัดเจน เหมาะกับอาคารที่ตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการออกแบบเพื่อความยั่งยืนเจาะลึกคะแนน TREES ที่ระบบนี้สามารถสนับสนุนได้แบบตรงเป้า

การติดตั้งระบบ Ozone สำหรับ Condenser หรือระบบบำบัดน้ำคูลลิ่งทาวเวอร์ด้วยโอโซน เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบทำความเย็น ลดการใช้น้ำและพลังงาน พร้อมช่วยรักษาความสะอาดโดยไม่ใช้สารเคมี ส่งผลโดยตรงต่อคะแนนการรับรองอาคารเขียวตามมาตรฐาน TREES-NC ของประเทศไทย โดยเฉพาะในหัวข้อ:

🔹 หมวด Water Conservation (WC)

WC1: Water Use Reduction

ระบบ Ozone ช่วยลดการใช้น้ำใหม่ (Make-up Water) ได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุผลหลัก 2 ข้อ:

  • ลดการ Blowdown: โอโซนช่วยยืดอายุการใช้น้ำในระบบ ทำให้ไม่ต้องปล่อยน้ำออกจากระบบบ่อยครั้ง ลดปริมาณการใช้น้ำทดแทน
  • ควบคุมการสะสมของตะกรันและแบคทีเรีย: ช่วยลดปัญหาตะกรัน ทำให้ไม่ต้องเติมน้ำมากเพื่อชดเชยการสูญเสียจากการล้างระบบ

ผลลัพธ์: อาคารสามารถแสดงผลการลดการใช้น้ำรวมได้ >30–50% จาก baseline ซึ่งเข้าเกณฑ์รับคะแนน WC1 (ตั้งแต่ 1–5 คะแนน ขึ้นกับเปอร์เซ็นต์ที่ลดได้)

 

🔹 หมวด Energy and Atmosphere (EA)

EA1: Minimum Energy Performance และ EA Credit: Enhanced Energy Performance

ระบบโอโซนช่วยให้ระบบคูลลิ่งทาวเวอร์และคอนเดนเซอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะ:

  • ป้องกันการสะสมของตะกรันและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ระบบแลกเปลี่ยนความร้อนทำงานหนัก
  • ทำให้เครื่องชิลเลอร์หรือคอมเพรสเซอร์ใช้พลังงานน้อยลงในระยะยาว

ผลลัพธ์: ช่วยให้อาคารผ่านเกณฑ์ Minimum Energy Performance (ข้อบังคับของ EA1)และสามารถขอคะแนนเพิ่มเติมจาก Enhanced Energy Performance ได้ (ในช่วง 1–7 คะแนน ขึ้นกับเปอร์เซ็นต์ที่ประหยัดพลังงานได้)

 

🔹 หมวด Green Infrastructure and Building Ecology (GI)

GI1–GI5 (เช่น GI4: Building System Durability)

ในมุมของ การดูแลระบบอาคารและความทนทานของอุปกรณ์:

  • ระบบโอโซนช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ในระบบน้ำเย็น เช่น ปั๊ม ท่อ และคูลลิ่งทาวเวอร์
  • ลดความเสียหายจากการใช้สารเคมีรุนแรงในการบำบัดน้ำ
  • ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา (maintenance) และของเสียอันตรายที่ต้องจัดการในระบบ

ผลลัพธ์: สนับสนุนคะแนนด้าน การบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบอาคารให้มีความยั่งยืน และสอดคล้องกับแนวทาง GI1–GI5 เช่น GI4 ที่กล่าวถึงความทนทานของระบบต่าง ๆ ในอาคาร